ผลงานที่ได้รับรางวัล UNPSA 2019 (พ.ศ 2562)

แชร์หน้านี้

ผลงานที่ได้รับรางวัล  UNPSA 2019 (. 2562) 

สาขา 1: การให้บริการที่ครอบคลุมและเท่าเทียมโดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง (Delivering inclusive and equitable services to leave no one behind)

Kenya

Initiative: Up-scaling Basic Sanitation for Urban Poor (UBSUP)

Institution: Water Sector Trust Fund

ผู้มีรายได้น้อยในเขตเมืองของสาธารณรัฐเคนยา ประสบปัญหาการเข้าถึงน้ำสะอาดที่มีไม่เพียงพอและไม่ยั่งยืน ซึ่งส่งผล กระทบต่อสุขอนามัย และสภาพความเป็นอยู่ของพลเมืองที่อาศัยอยู่ในบริเวณเหล่านั้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กและสตรี รวมทั้งประชากรที่มีสุขภาพร่างกายอ่อนแอ โครงการ UBSUP จึงเกิดขึ้นมาเพื่อจัดการกับปัญหาเหล่านั้นผ่านการจัดตั้งระบบบำบัดสิ่งปฏิกูล (DTFs)  การสูบ ขนถ่ายและการจัดการสิ่งปฏิกูล  นอกจากนี้  โครงการ UBSUP ยังจัดตั้งระบบติดตามเพื่อตรวจสอบการเข้าถึงน้ำที่สะอาดและสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานที่ถูกสุขลักษณะ อีกทั้งยังได้พัฒนาแนวทางเรื่องการปรับปรุงสุขอนามัยไปพร้อม ๆ กับการปฏิรูปภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง จากผลการประเมินพบว่าเป้าหมายและแนวทางของโครงการได้สร้างการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่ทำให้ประชากรที่มีรายได้ต่ำในเขตพื้นที่เมืองนั้นสามารถเข้าถึงน้ำสะอาดและการสุขาภิบาลขั้นพื้นฐานได้ โดยพบว่าตั้งแต่โครงการได้ริเริ่มจนถึงเดือนธันวาคมปี 2018 ได้ช่วยให้พลเมืองกว่า 200,000 คนเข้าถึงแหล่งน้ำสะอาด และมีสุขลักษณะที่ดีขึ้นได้

ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: โครงการดังกล่าวมีความสอดคล้องกับสาขาสมัครรับรางวัล ในสาขาที่ 1 การให้บริการที่ครอบคลุมและเท่าเทียมโดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง อย่างชัดเจน เนื่องจากการดำเนินโครงการได้เพิ่มโอกาศการเข้าถึงน้ำสะอากและสาธารณูปโภคขั้นพื้นที่ที่ถูกสุขลักษณะ ให้กับกลุ่มประชากรที่มี่รายได้น้อย กลุ่มเด็กและสตรีในเขตเมืองได้กว่า 200,000 คน รวมทั้งยังสร้างการทำงานแบบมีหุ้นส่วนในการบริการระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ ในระบบการกำจัดสิงปฏิกูลด้วย (DTFs) 

* สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการได้ที่ https://awards.opdc.go.th/content/MTEwMQ

Brazil

Initiative: Waste Collection Program: Enhancing a Cooperative Network for Productive and Social Inclusion

Institution: Prefeitura do Jaboato dos Guararapes

เดิมการจัดเก็บขยะ หรือการรวบรวมขยะของเมือง Jaboat?o dos Guararapes นั้นเป็นกิจกรรมที่ไม่ได้มีการจัดการอย่างเป็นระบบ ทำให้พนักงานเก็บขยะไปรวมตัวกันที่ Lixo da Muribeca เป็นลานทิ้งขยะกลางแจ้ง (open-air) ของคนในเมืองนั้น ซึ่งการเข้ามาเก็บขยะในพื้นที่ดังกล่าวทำให้คนเก็บขยะนั้นต้องเผชิญกับโรคภัยไข้เจ็บ แก๊สและควันพิษ สูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคม ดังนั้นในปี 2009 เทศบาลจึงได้ดำเนินการปิดสถานที่ทิ้งขยะแห่งนี้ และได้เริ่มต้นโครงการใหม่โดยให้มีการจัดจ้างพนักงานจำนวนหนึ่งที่เคยทำงานเก็บขยะและคนกวาดถนน และให้กลุ่มคนเหล่านั้นได้เข้ารับการฝึกอบรมหลักปฏิบัติที่ถูกต้อง รวมถึงได้ให้การสนับสนุนเครื่องมือเครื่องใช้และสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในการทำงาน โดยคำนึงถึงความปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อมด้วย นอกจากนี้ทางเทศบาลยังให้ความสำคัญแก่ผู้หญิง และประชากรกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้ป่วยที่ติดเชื้อเอชไอวี ผู้ที่เคยกระทำผิดทางกฎหมาย ผู้ที่เคยติดยาเสพติด เพื่อให้เข้ามาทำงานและดูแลจัดการสหกรณ์ขยะแห่งใหม่นี้

ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: โครงการดังกล่าวมีความสอดคล้องกับสาขาสมัครรับรางวัล ในสาขาที่ 1 การให้บริการที่ครอบคลุมและเท่าเทียมโดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง เนื่องจากเพิ่มโอกาสในการมีงานทำ และมีรายได้ให้กับประชากรกลุ่มเปราะบาง และสตรี รวมทั้งการให้ความรู้การฝึกอบรมหลักปฏิบัติที่ถูกต้องในการรวบรวมและจัดเก็บขยะ โดยการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นเป็นการสร้างโอกาสที่เท่าเทียมซึ่งสอดคล้องกับสาขาที่ 1


Australia

Initiative: Victorian Rabbit Action Network

Institution: Agriculture Victoria

ปัญหาความไม่มีเสถียรภาพของดินในรัฐวิคตอเรียของเครือรัฐออสเตรเลียนั้นเกิดจากการบุกรุกของกระต่ายยุโรปที่เข้ามาอยู่อาศัยโดยการขุดโพรง และการสืบพันธุ์ของกระต่ายยุโรปที่มีจำนวนมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น The Victorian Rabbit Action Network (VRAN) จึงได้เร่งสร้างการประสานงานแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างชุมชนและรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกของกระต่ายสายพันธุ์นี้ นอกจากนี้ VRAN ยังได้บันทึกปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อช่วยสร้างกลไกในการตอบโต้และควบคุมปัญหากระต่ายบุกรุกที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต อีกทั้งยังได้จัดการประสานงานระหว่างผู้ออกนโยบายและรัฐบาลท้องถิ่นเพื่อให้การออกนโยบายต่อปัญหาดังกล่าวมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยภายใน 4 ปีหลังจากการริเริ่ม โครงข่ายนี้ได้จัดการปัญหาในพื้นที่ต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบครอบคลุมถึง 2.4 ล้านเฮคเตอร์ที่ และจากผลการสำรวจและการประเมินโครงการริเริ่มนี้พบว่าได้สร้างความเปลี่ยนแปลงในการจัดการปัญหาการบุกรุกของกระต่ายยุโรปนี้ไปสู่การจัดการปัญหาที่นำโดยชุมชน

ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: ผลงานดังกล่าวมีความสอดคล้องกับสาขาสมัครรับรางวัล ในสาขาที่ 1 การให้บริการที่ครอบคลุมและเท่าเทียมโดยไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง เนื่องจากมีการดำเนินการแก้ไขปัญหาการบุกรุก และการขยายพันธ์ุกระต่ายโดยการอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งในส่วนของรัฐบาลท้องถิ่น ชุมชน เจ้าของที่ดิน ผ่านการประสานงานโดย VRAN ด้วยการแลกเปลี่ยนข้อมูล กำหนดกรอบปัญหา และพิจารณาแนวทางแก้ไขร่วมกัน ความสำเร็จของการแก้ไขปัญหาการบุกรุกของกระต่ายครอบคลุมพื้นที่ถึง 2.4 ล้านเฮกเตอร์ (15 ล้านไร่) ทั้งนี้ การดำเนินการของโครงการใช้วิธีการมีส่วนร่วม โดยไม่ละทิ้งคนชายขอบ คือ เจ้าของที่ดินดั้งเดิม เกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ร่วมทั้งการสร้างความร่วมมือจนเกิดเป็นเครือข่ายไปสู่แนวทางการแก้ไขปัญหาที่นำโดยชุมชน ซึ่งสอดคล้องกับสาขาที่ 1


สาขา 2: ความเชื่อมั่นต่อแนวทางการบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ (Ensuring integrated approaches in the public-sector institutions)

Indonesia

Initiative: PetaBencana.id

Institution: Badan Nasional Penanggulangan Bencana

จากสภาพอากาศที่มีการเปลี่ยนแปลงและทวีความรุนแรงขึ้นอย่างไม่สามารถทำนายได้ หลายเมืองในอินโดนีเซียจึงต้องเผชิญกับภัยธรรมชาติที่รุนแรงอยู่เป็นประจำ เนื่องจากขาดข้อมูลที่ทันต่อสถานการณ์เพื่อใช้ในการตัดสินใจวางแผนรับมือ ทำให้การบริหารจัดการขาดประสิทธิภาพและมีความซ้ำซ้อน ด้วยการเปิดเผยข้อมูลภัยพิบัติแบบ Real-time และทำให้เกิดการส่งต่ออย่างสะดวกรวดเร็ว PetaBencana.id ได้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับประชาชนอย่างเท่าเทียมในการติดสินใจรับมือ โดย platform ได้รับการออกแบบให้ทำงานอย่างสอดคล้องกับ platform อื่นๆอย่างเช่น ข้อความสั้น Social media และ sms แนวคิดนี้เกิดขึ้นเพื่อให้มีการเข้าถึงข้อมูลได้ง่ายขึ้นโดยกลุ่มคนที่มีต้นทุนต่ำ หน่วยงานและภาคประชาชนที่ยากจะเข้าถึงข้อมูลได้ โดยตั้งแต่ที่เวปไซต์ Patabencana.in เปิดตัวในเดือนธันวาคม 2015 มีการเข้าชมเวปไซต์จำนวน 737,102 ครั้งจากคน 361,478 คน โดยตัวระบบนั้นยังถูกออกแบบให้สามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่น ๆ ได้ เช่น ระบบส่งข้อความทันที (instant messaging) โซเชียลมีเดีย (social media) หรือระบบการส่งข้อความแบบสั้น ๆ (SMS-based communications)

ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: ผลงานมีความสอดคล้องกับสาขาที่ 2 ความเชื่อมั่นต่อแนวทางการบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากมีการนำนวัตกรรมมาพัฒนา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน ด้วยการสร้าง platform ที่สามารถรายงานสถานการณ์น้ำแบบ Real-time ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งยังส่งเสริมให้เกิดการบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานของรัฐ และประชาชน มีการเปิดเผยข้อมูลต่อประชาชน

Argentina

Initiative: Social, Synergistic and Sustainable Business Model

Institution: Public Enterprise

ผู้ป่วยเรื้อรังจำนวนมากในประเทศอาร์เจนตินามีความต้องการใช้ยารักษาโรคซึ่งมีราคาแพง แต่ผู้ป่วยเหล่านั้นไม่ได้มีทรัพยากรทางเศรษฐกิจหรือประกันสุขภาพที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มคนยากจน หรือกลุ่มคนที่เปราะบาง (vulnerable) ไม่สามารถเข้าถึงยารักษาโรคที่มีราคาแพงได้ โดยเฉพาะยาที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรคด้วยพลาสมา (plasma) การจัดตั้ง Blood Products Laboratory จึงมีจุดประสงค์เพื่อจัดทำยาที่ทำมาจากการแปลงเชื้อโรคที่เหลือค้าง (plasma) มาเป็นยารักษาโรคที่มีความปลอดภัย มีราคาที่เหมาะสมและมีประสิทธิผลให้แก่กลุ่มคนยากจนและคนที่เปราะบาง ในขณะเดียวกันองค์กรดังกล่าวก็ยังทำหน้าที่เป็นช่องทางในการจัดหายารักษาโรคสำหรับผู้ป่วยทั่วไปอีกด้วย นอกจากนี้ยังได้จัดตั้งโปรแกรมที่ชื่อว่า Drug Donation Program เพื่อเป็นช่องทางให้คนบริจาคยารักษาโรคสำหรับบุคคลทั่วไปที่ไม่มีประกันสุขภาพหรือทรัพยากรทางเศรษฐกิจในการรักษาโรค ท้ายที่สุดจำนวนคนในประเทศอาร์เจนตินาที่สามารถเข้าถึงยารักษาโรคราคาถูกก็มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยได้มีการขยายความร่วมมือผ่านข้อตกลงในการแลกเปลี่ยน plasma กับประเทศชิลี อุรุกวัย ปารากวัย และเอกวาดอร์
ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: ผลงานมีความสอดคล้องกับสาขาที่ 2 ความเชื่อมั่นต่อแนวทางการบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ โดยการดำเนินงานเป็นรูปแบบธุรกิจเพื่อสังคม ที่เกิดจากการดำเนินงานร่วมกันระหว่างรัฐ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ทั้งโรงพยาบาล อุตสาหกรรมยา มหาวิทยาลัย ผู้บริจาค เป็นต้น ทำให้สามารถร่วมกันพัฒนานวัตกรรมด้านสาธารณสุขที่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อกลุ่มผู้ป่วยกลุ่มที่ยากจน และยังสามารถขยายความร่วมมือไปยังประเทศอื่นได้อีกด้วย จึงทำให้เกิดความเชื่อมั่นต่อแนวทางการดำเนินงานแบบบูรณาการของหน่วยงานรัฐ ซึ่งสอดคล้องกับสาขาที่

Portugal

Initiative: The National Support Centers for the Integration of Migrants (CNAIM)

Institution: High Commission for Migration

โดยปกติแล้วผู้อพยพที่อาศัยอยู่ในประเทศโปรตุเกสนั้นจะต้องขอรับข้อมูลเรื่องขั้นตอนการขออยู่อาศัย หรือการตั้งถิ่นฐานในประเทศโดยการไปเข้าพบตามสำนักงานต่าง ๆ หลายแห่ง ซึ่งใช้เวลานาน และเกิดความล่าช้า อีกทั้งยังทำให้ขั้นตอนการจัดหาเอกสารที่จำเป็นมายื่นต่อเจ้าหน้าที่นั้นมีความล่าช้าตามไปด้วย ส่งผลกระทบต่อสถานะทางกฎหมาย สถานะทางสังคมและโอกาสในการหางานของผู้อพยพเหล่านี้  การจัดตั้ง CNAIM จึงเป็นการประสานความร่วมมือของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้ขั้นตอนการทำงานมีความเป็นเอกภาพมากขึ้น โดยได้รวมการบริการการให้ข้อมูล ชี้แนะ และให้คำแนะนำแก่ผู้อพยพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดความล่าช้าและเพิ่มความแม่นยำในการให้ข้อมูลมากขึ้น ดังนั้นผู้อพยพจึงสามารถเข้ามาทำเรื่องการขอเข้ามาอยู่อาศัยหรือตั้งถิ่นฐานได้เสร็จสิ้นที่ CNAIM เพียงจุดเดียว โดย CNAIM ได้ให้บริการไปแล้วกว่า 4,599,749 บริการในระหว่างเดือนมีนาคมปี 2004 จนถึงกันยายนปี 2018 โดยเน้นย้ำถึงการบริการที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพ

ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: ผลงานมีความสอดคล้องกับสาขาที่ 2 ความเชื่อมั่นต่อแนวทางการบูรณาการของหน่วยงานภาครัฐ  เนื่องจากมีการบูรณาการฐานข้อมูล จัดตั้งเป็นศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ ทำให้ลดระยะเวลา และขั้นตอนการทำงาน ซึ่งการดำเนินงานดังกล่าวอาศัยการทำงานร่วมกันระหว่าง บูรณาการฐานข้อมูล ลดความผิดพลาดของเอกสารที่มาจากหลายหน่วยงาน และบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และประกันสังคม เป็นต้น 


สาขา 3: การพัฒนาประสิทธิภาพและความรับผิดรับชอบในหน่วยงานภาครัฐ (Developing effective and accountable public institutions)

Thailand

Initiative: Self-reliant Solar Energy Community

Institution: Nong Ta Tam Subdistrict Administrative Organization

ในตำบลหนองตาแต้ม หลายๆ ครัวเรือยังเข้าไม่สามารถเข้าถึงแหล่งไฟฟ้าได้ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ในตำบลนั้น โครงการ Self-reliant Solar Energy Community จึงได้ริเริ่มขึ้นเพื่อให้ทุกครัวเรือนสามารถเข้าถึงแหล่งพลังงานไฟฟ้าได้ด้วยการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการผลิตไฟฟ้าที่มีต้นทุนการผลิตราคาถูก ทั้งนี้การพัฒนาแหล่งไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ได้คำนึงถึงการพัฒนาที่ยั่งยืนของชุมชนด้วยเนื่องจากการติดตั้งการผลิตไฟฟ้าในชุมชนนั้นทำได้ยาก นอกจากนี้โครงการดังกล่าวยังได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้เกี่ยวกับการพึ่งพาพลังงานทางเลือกเพื่อให้ความรู้แก่ชุมชนและฝึกอบรบให้ผู้ที่สนใจมีความเชี่ยวชาญในด้านพลังงานทางเลือก อีกทั้งยังได้ให้เงินสนับสนุนที่เกี่ยวข้องในการซื้ออุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับพลังงานแสงอาทิตย์ โดยได้จัดให้มีศูนย์การเรียนรู้ทั้งหมด 3 แห่ง และมีผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทางเลือก 5 คนต่อประชากร100คนในตำบลหนองตาแต้ม โครงการดังกล่าวทำให้คนในตำบลมีความรู้เรื่องพลังงานแสงอาทิตย์ การลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

วามสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: ผลงานมีความสอดคล้องกับสาขาที่ 3 การพัฒนาประสิทธิภาพและความรับผิดชอบในหน่วยงานภาครัฐ  เนื่องจากมีการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนซึ่งเป็นความรับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลหนองตาแต้มได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการกำหนดนโยบายในการนำพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่ประชาชน  รวมทั้งสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของประชาชน และประเมินผลโครงการส่งผลให้เกิดความโปร่งใส และการส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เพื่อให้รับทราบและเข้าถึงปัญหาของประชาชน

* สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการได้ที่ https://awards.opdc.go.th/content/MTEwMw


สาขา 4: การส่งเสริมการใช้ดิจิทัลในหน่วยงานภาครัฐ (Promoting digital transformation in public sector institutions)

Costa Rica

Initiative: Implementation of the Single Digital Health Record in Primary Care

Institution: Caja Costarricense de Seguro Social (CCSS)

ในอดีตบันทึกเวชระเบียบ หรือประวัติการรักษาของผู้ป่วยชาว Costa Rica นั้นเข้าถึงหรือโอนถ่ายระหว่างสำนักงานหรือระหว่างภูมิภาคทำได้ยาก  ดังนั้น แพลตฟอร์ม Single Digital Health File (EDUS) จึงได้รวบรวมแอปพลิเคชันและบริการต่าง ๆ เพื่อจัดการข้อมูลที่เกี่ยวข้องในด้านสุขภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพขององค์กร CCSS หรือกองทุนประกันสังคมของสาธารณรัฐคอสตาริกาสามารถเข้าถึงประวัติสุขภาพของผู้ป่วยผ่านทางทุกองค์ที่เกี่ยวข้องกับการรักษา และผ่านทางโครงข่ายการบริการที่เกี่ยวข้องกับองค์กรของตน การเกิดขึ้นของแพลตฟอร์มนี้ทำให้การตัดสินใจทางคลินิก  (clinical decision) และการควบคุมคุณภาพในการให้บริการดีขึ้น ซึ่งความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ตลอดเวลาประกอบกับการใช้แนวทางปฏิบัติทางคลินิกในการรักษาทำให้ขั้นตอนการบริการและการรักษามีมาตรฐานมากขึ้น แพลตฟอร์มนี้ยังครอบคลุมไปถึงการใช้การส่งข้อความทางโทรศัพท์เพื่อติดต่อสื่อสารกับผู้ที่ใช้ EDUS โดยตรง ท้ายที่สุดนั้นได้มีการใช้แพลตฟอร์ม EDUS ในทีมของ Basic Teams of Integral Health Care กว่า 1,047 ทีม (Primary Care Establishments) ภายใต้กองทุนประกันสังคมของประเทศคอสตาริกาใน 7 จังหวัด

ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: ผลงานมีความสอดคล้องกับสาขาที่ 4 การส่งเสริมการใช้ดิจิทัลในหน่วยงานภาครัฐ เนื่องจากมีการเชื่อมต่อ ถ่ายโอนข้อมูลบันทึกเวชระเบียบ หรือประวัติการรักษาของผู้ป่วยผ่าน แพลตฟอร์ม Single Digital Health File (EDUS) ซึ่งทำให้ผู้เชี่ยวชาญ หรือแพทย์สามารถเข้าถึงประวัติของผู้ป่วยได้ทุกที่ทุกเวลาเพื่อผลประโยชน์ในการรักษา


สาขา 5: การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในการให้บริการสาธารณะเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Promoting gender responsive public services to achieve the SDGs)

Republic of Korea

Initiative: Public Sanitary Pads Support Policy for Menstrual Health Equity

Institution: Seoul Metropolitan Government

โดยทั่วไปประชากรเพศหญิงที่มีรายได้น้อยในประเทศเกาหลีใต้มักประสบปัญหาในการหาซื้อผ้าอนามัยที่มีราคาถูก และห้องน้ำสาธารณะก็มักจะไม่มีเครื่องจำหน่ายผ้าอนามัย โครงการนี้จึงได้ริเริ่มขึ้นในปี 2016 เพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าวโดยมีเป้าหมายหลักเพื่อแจกจ่ายผ้าอนามัยให้แก่วัยรุ่น โดยในปี 2017 ได้มีการติดตั้งเครื่องจำหน่ายผ้าอนามัยจำนวน 992 เครื่องเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่ประสบปัญหา นอกจากนี้ในปี 2019 ยังมีแผนเพื่อติดตั้งเครื่องจัดจำหน่ายผ้าอนามัยในที่สาธารณะอีก 200 เครื่อง และอาจจะขยายเพิ่มเติมอีกในอนาคต โดยรัฐบาลกรุงโซล (SMG) ยังได้บริหารจัดการร้านขายยาที่เกี่ยวข้องกับผู้หญิงที่มีชื่อว่า Girl Care และได้จัดทำเว็บไซต์และหนังสือที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการมีประจำเดือนเพื่อให้ความรู้แก่สาธารณะชน นอกจากนี้รัฐบาลกรุงโซลยังได้ริเริ่มแนวทางต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการมีประจำเดือนต่อสาธารณะชนอีกด้วย เช่น การจัดงานเกี่ยวกับผ้าอนามัยที่ใช้ซ้ำได้ (reusable sanitary pads) โดยมีพนักงานบริษัทและผู้มีชื่อเสียงต่าง ๆ เข้าร่วมงาน ซึ่งโครงการนี้ส่งผลดีในระดับชาติในการทำให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลและสาธารณสุขที่เกี่ยวข้องกับการมีประจำเดือนได้มากขึ้น

ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: ผลงานมีความสอดคล้องกับสาขาที่ 5 การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในการให้บริการสาธารณะเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เนื่องจากการดำเนินงานจัดเตรียมผ้าอนามัยฉุกเฉินในห้องน้ำสาธารณะ และการ
บูรณาการเรื่องเพศเพื่อนำมาใช้ในการกำหนดนโยบายในการพัฒนาบ้านเมือง

* สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของโครงการได้ที่ https://awards.opdc.go.th/content/MTEwMg

Austria

Initiative: Competence Checks for Refugee Women,

ABZ*Kompetenzcheck

Institution: ABZ*AUSTRIA

บริษัทในสหพันธรัฐออสเตรียประสบปัญหาการจ้างงานผู้อพยพหญิง ที่ขาดทักษะและคุณสมบัติสำหรับตำแหน่งงานที่ดี โครงการนี้จึงได้นำเสนอการอบรมเพื่อออกใบรับรองความสามารถในการทำงานให้แก่ผู้อพยพหญิง และการอบรมทักษะเพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าทำงานในประเทศออสเตรเลีย โดยผู้ให้การอบรมและให้คำปรึกษาเป็นผู้เชี่ยวชาญที่สามารถใช้ภาษาฟาร์ซีและอารบิกได้อย่างคล่องแคล่ว ผู้อพยพหญิงจะอยู่ในโครงการทั้งหมด 7 สัปดาห์และจะได้รับโอกาสในการฝึกงาน โดยการเข้าร่วมโครงการนี้ ผู้อพยพหญิงจะสามารถพิสูจน์ความรู้และทักษะ เพิ่มพูนความสามารถด้านภาษา สร้างเครือข่ายทางสังคม และสามารถพึ่งพาตัวเองในเรื่องการเงินได้

ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: ผลงานมีความสอดคล้องกับสาขาที่ 5 การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในการให้บริการสาธารณะเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ชัดเจน เนื่องจากโครงการเพิ่มโอกาสในการมีอาชีพ และรายได้ให้แก่สตรีผู้อพยพ รวมทั้งการสอนภาษาหลักที่ต้องใช้ในออสเตรีย เพื่อให้สตรีเหล่านี้สามารถพึ่งพาตนเองได้

Chile

Initiative: Promotion of Women Led Companies Through Public Market

Institution: ChileCompra

ความเหลื่อมล้ำทางเพศเป็นปัญหาที่สามารถพบได้ทั่วไปในระบบตลาดของสาธารณรัฐชิลี ซึ่งมีผู้ผลิตจำนวนน้อยที่มีเจ้าของเป็นผู้หญิง และโอกาสในการแข่งขันธุรกิจของผู้หญิงก็มีจำกัด อย่างไรก็ตามตราประทับ “Sello Empresa Mujer” (ตราประทับบริษัทผู้หญิง) จะช่วยให้โอกาสของผู้หญิงในการเข้าไปแข่งขันในระบบตลาดของประเทศชิลีสูงขึ้น โดยตรานี้จะแสดงถึงผลิตภัณฑ์หรือบริษัทที่บริหารโดยผู้หญิง หรือมีผู้หญิงเป็นผู้ถือหุ้นเท่ากับหรือมากกว่าร้อยละห้าสิบ นอกจากนี้ผู้หญิงยังได้รับการอบรมและได้รับเครื่องมือเพื่อพัฒนาการจัดการธุรกิจของตน ในขณะเดียวกันการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะก็ได้รับคำสั่งให้จัดซื้อกับบริษัทที่บริหารโดยผู้หญิงหรือมีผู้หญิงเป็นผู้ถือหุ้นเพื่อสนับสนุนการจ้างงานผู้หญิงให้มากขึ้น โครงการนี้จึงเป็นเครื่องมือในการส่งเสริมผู้ประกอบการหญิงขนาดเล็กและขนาดย่อย และกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างสาธารณะ

ความสอดคล้องกับสาขาที่สมัคร: ผลงานมีความสอดคล้องกับสาขาที่ 5 การส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศในการให้บริการสาธารณะเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ชัดเจน โดยโครงการได้ให้ความสำคัญกับผู้หญิงที่ประกอบธุรกิจในชิลี ด้วยการสร้างตราสัญลักษณ์ Sello Empresa Mujer เพื่อให้แสดงบนผลิตภัณฑ์ที่บริหารโดยผู้หญิง รวมทั้งการฝึกอบรมเพื่อพัฒนาธุรกิจ


ทั้งนี้สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมของผลงานที่เป็นภาษาอังกฤษได้ที่ https://publicadministration.un.org/unpsa/database/Home/Winners/2019-Winners